ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ หรือประกันสะสมทรัพย์ คือประกันชีวิตที่มีการเน้นในเรื่องของ การออมเงิน โดยจะมีทุกระยะ ตั้งแต่ 3 – 5 ปี จนถึง 25 ปี มีทั้งแบบที่ได้เงินคืนระหว่างสัญญา และ แบบที่ได้เงินคืนเป็นก้อนตอนครบสัญญา ซึ่งแบบที่มีเงินคืนระหว่างสัญญาด้วยนั้น จะมีเบี้ยประกันที่แพงกว่าแบบไม่คืนระหว่างสัญญา ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ จุดเด่นหลัก ๆ คือ เป็นการออมที่การันตีเงินเป้าหมายได้จริง ปราศจากความเสี่ยง ช่วยให้คุณสร้างวินัยในการออม เพราะไม่สามารถถอนเงินออกจากกรมธรรม์ได้ อีกทั้งยังเป็นประกันที่นิยมซื้อเพื่อใช้ในการลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย แต่ข้อเสียก็คือ จะมีทุนประกันที่ไม่สูง เมื่อเทียบกับประกันอื่น ถ้าหากต้องจ่ายเบี้ยประกันเท่ากัน จึงไม่เหมาะที่จะทำเพื่อการคุ้มครองชีวิตเป็นหลัก ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ ควรศึกษา ทำความเข้าใจรายละเอียดให้ดี เช็คความสามารถในจ่ายค่าเบี้ยประกันของตัวเองให้ดี โดยเกณฑ์เบื้องต้น สำหรับการคำนวณเบี้ยประกันชีวิตนั้นไม่ควรเกิน 10 % ของรายได้ต่อปี และใน 1 คน ก็ไม่ควรมีกรมธรรม์ประกันชีวิต ที่ซ้ำซ้อนกันหลายฉบับ จนจ่ายเบี้ยไม่ไหว ฉะนั้นจงเลือกประกันที่จำเป็นต้องใช้ เหมาะสม และ คุ้มค่ากับตัวเองจะดีที่สุด
ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ ต่างจากเงินฝากในธนาคารอย่างไร
ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ ตามหลักการวางแผนทางการเงินที่ดี เราควรเก็บออม หรือเลือกออมในทรัพย์สิน ที่มีการกระจายความเสี่ยงแบบหลายระดับ พอพูดถึงความเสี่ยงต่ำ ที่ส่วนใหญ่ก็นึกถึงการฝากธนาคารเพื่อรับดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ ก็เป็นอีกทางเลือกที่อยากให้พิจารณาไว้ โดยมีปัจจัย ดังต่อไปนี้
- เรื่องของระดับความเสี่ยง
มีความเสี่ยงต่ำทั้ง 2 ประเภท ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน ธนาคารจะคุ้มครองเงินฝากต่อบัญชีสูงสุดแค่ 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ทั้งธนาคาร และ บริษัทประกันชีวิตก็มีหน่วยงานที่คอยกำกับดูแล ตรวจสอบสถานะทางการเงินอยู่ เพื่อให้มีมาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่ดี มีสถานะทางการเงินที่มั่นคง
- เรื่องของผลตอบแทน
ผลตอบแทนดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 0.25 % ส่วนประกันแบบสะสมทรัพย์ก็จะต่างออกไป ต้องดูที่ผลประโยชน์เกี่ยวกับเงินคืน เงินปันผล เงินครบกำหนดสัญญาอย่างไร หากเป็นแบบที่กำหนดการจ่ายคืนคงที่ ก็คำนวณได้ทันที โดยจะมีแนวโน้มที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์
- เรื่องของความคุ้มครอง
ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ มีข้อดีที่ให้ความคุ้มครองชีวิต ถึงแม้ไม่มากเท่ากับประกันชีวิตประเภทอื่นก็ตาม แต่หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ก็ยังมีเงินอีกก้อนไว้ให้คนที่คุณรัก นอกจากนี้แล้ว ส่วนมากก็ยังสามารถซื้อความคุ้มครองอื่นเพิ่มเติมได้ เช่น ความคุ้มครองด้านสุขภาพ เงินชดเชยรายได้หากเข้าโรงพยาบาล เป็นต้น
- เรื่องของสิทธิประโยชน์ทางภาษี
เงินฝากจะไม่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมใด ๆ แถมหากมีดอกเบี้ยจากเงินฝากออมทรัพย์เกิน 20,000 บาทต่อปี รวมทุกบัญชีของทุกธนาคารแล้ว ยังต้องเสียภาษี 15 % ของดอกเบี้ยที่ได้รับอีกด้วย แต่กับประกันสะสมทรัพย์ที่คุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป และ เข้าเงื่อนไขของกรมสรรพากร สามารถลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคลได้สูงสุดถึงปีละ 100,000 บาท
ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ แนะนำ 3 ผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่า ที่มากับความคุ้มครอง
1. ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ อีซี่ อี เซฟ 10 / 5 จาก FWD ประกันชีวิต
ออมเงินในรูปแบบประกันชีวิต ที่ไม่ใช่เรื่องยาก แม้การวางแผนทางการเงิน เพื่ออนาคตจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ไม่ควรทำให้การมีไลฟ์สไตล์ ในปัจจุบันกลายเป็นเรื่องยาก คุณสามารถจ่ายเบี้ยเพียงสั้น ๆ พร้อมเงินคืนทุกปี เพื่อสร้างความมั่งคั่งได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องสละความสุขใด ๆ ในชีวิต
- จ่ายเบี้ยสั้น ๆ เพียงแค่ 5 ปี สามารถลดหย่อนภาษีได้ทุกปีสูงสุดถึง 100,000 บาท
- ออมเงินก็ได้ เงินใช้จ่ายก็มี สิ้นปีที่ 1 – 5 รับเงินคืนถึง 4 % ของทุนประกัน และ สิ้นปีที่ 6 – 9 รับเงินคืนถึง 5 % ของทุนประกันทั้งหมด
- ซื้อง่าย ซื้อออนไลน์ได้ ไม่ต้องเตรียมเอกสารให้ยุ่งยาก ง่ายเพียงกรอกข้อมูล ก็รับความคุ้มครองได้ทันที
2. ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ ฟอร์ เซฟวิ่ง 25 / 15 จาก FWD ประกันชีวิต
ให้การออมเงินเป็นเรื่องง่าย พร้อมช่วยให้คุณออมได้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยผลประโยชน์ที่คุ้มค่าที่สุด พร้อมรับเงินคืนทุกปี และ รับเงินก้อนเมื่อครบกำหนดสัญญาถึง 150 % ของทุนประกัน
- รับเงินคืนทุกปี รับเงินคืนถึง 1 % ของทุนประกันทุกปี ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1 ถึง 24
- ความคุ้มครองที่เพิ่มมากขึ้น คุ้มครอง สูงสุดถึง 200 % ของทุนประกัน หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันกับคุณ
- รับผลประโยชน์ที่คุ้มค่าถึง 150 % ของทุนประกัน หรือเบี้ยประกันชีวิตที่จ่ายมาแล้วทั้งหมด หักด้วยเงินคืนที่จ่ายไปแล้ว แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่ากัน
3. ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ ไลฟ์ เซฟวิ่ง 30 / 15 จาก FWD ประกันชีวิต
แผนการสร้างเงินเก็บเพื่ออนาคตสดใส เมื่อชีวิตเข้าสู่วัยทำงาน ที่มีรายได้เป็นของตนเอง เริ่มมองหาเป้าหมายเพื่อสร้างความท้าทาย และ แรงบันดาลใจในการวางแผนการเงินระยะยาว เพื่อให้ถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นใจ พร้อมผลตอบแทนที่คุ้มค่า และ ความคุ้มครองตลอดสัญญา
- มั่นใจได้ในการรับเงินคืนทุกปี รับเงินคืน ปีละ 1 % ของทุนประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1 ถึง 15 และ รับปีละ 5 % ของทุนประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 16 ถึง 30
- คุ้มค่ากับการรับเงินก้อนเมื่อครบกำหนดสัญญา รับเงินก้อนถึง 145 % ของทุนประกันภัย หรือ 101 % ของเบี้ยประกันภัยที่ชำระมาแล้ว หักด้วยจำนวนเงินจ่ายคืนรายงวด ที่จ่ายแล้วทั้งหมด แล้วแต่จำนวนใดมากกว่า
- วางใจได้กับความคุ้มครองชีวิตตลอด 30 ปี ความคุ้มครองชีวิตสูงสุดถึง 250 % ของทุนประกันภัย ในปีกรมธรรม์ที่ 13 ถึง 30
- เพิ่มเติมความคุ้มครองเลือกได้ตามใจ อีกทั้งเลือกซื้อสัญญาเพิ่มเติมได้ เช่น ความคุ้มครองสุขภาพ โรคร้ายแรง อุบัติเหตุ เป็นต้น
ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ ข้อควรรู้ก่อนการซื้อประกันชนิดนี้
ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ หรือประกันสะสมทรัพย์ ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน อาจจะทำให้ใครหลายคนคงมองหาที่ออมเงินที่ปลอดภัย และ ได้ผลตอบแทนที่แน่นอน ไม่อยากเสี่ยงกับขาดทุน บางคนอาจจะเลือกออมเงินกับบัญชีฝากประจำแบบปลอดภาษี หรือบางคนอาจจะเลือกบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง ซึ่งก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ ก็เป็นช่องทางการออมเงินอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ได้ผลตอบแทนแน่นอน ปราศจากความเสี่ยง มีระยะเวลากำหนดแน่ชัด เป็นเงินก้อนไว้ให้คนข้างหลังในกรณีที่เราเสียชีวิต ที่สำคัญลดหย่อนภาษีได้ และ นี่คือข้อควรรู้ก่อนการซื้อ มีดังนี้
- ต้องรู้ก่อนว่าประกันสะสมทรัพย์ คืออะไร
เป็นประกันชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นการออมเงิน พร้อมรับความคุ้มครองไปพร้อม ๆ กัน เมื่อเราส่งเบี้ยประกันครบตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ประกันชีวิตก็จะจ่ายเงินคืนให้เรา โดยมีทั้งแบบจ่ายคืนเป็นเงินก้อนครั้งเดียว หรือแบบมีเงินคืนระหว่างทางตลอดสัญญาก็ได้ ถ้าเราเสียชีวิตระหว่างที่ส่งกรมธรรม์ คนข้างหลังเรา ก็จะได้รับเงินก้อนที่เรียกว่า จำนวนเงินเอาประกัน ตามจำนวนที่ระบุไว้ในสัญญากรมธรรม์ได้ทันที
- รู้ว่า ตัวเลขด้านหน้า / ตัวเลขด้านหลัง คืออะไร
บางคนไม่เคยซื้อประกันชีวิตมาก่อน อาจจะเคยเจอ ประกันออมทรัพย์ A 10 / 7 แล้วไม่เข้าใจ ว่าตัวเลขนั้นหมายถึงอะไร ตัวเลขด้านหน้าก็คือ จำนวนปีที่คุ้มครอง ตัวเลขด้านหลังก็คือ จำนวนปีที่ชำระเบี้ยประกันภัยนั่นเอง
- จะรู้ได้อย่างไรว่าประกันสะสมทรัพย์แบบไหนคุ้มค่าที่สุด
แนะนำให้ลองคำนวณเบี้ยที่ส่งไปทั้งหมด ว่าส่งเบี้ยไปเท่าไหร่ เราได้เงินรับคืนมาทั้งหมดเท่าไหร่ ลองมาหักลบกันแล้วเทียบกันดูหลาย ๆ บริษัท แต่ทั้งนี้อย่าลืมนึกถึงทุนประกันด้วย เพราะแต่ละอาจจะมีที่เบี้ยเท่ากัน แต่ทุนประกันไม่เท่ากัน รวมไปถึงดูระยะเวลาการส่งเบี้ยให้ดี ให้ละเอียด
- รู้ข้อดีของ ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์
เป็นการออมเงินที่มีผลตอบแทนแน่นอน มั่นใจได้ การันตีว่าจะได้เงินจำนวนเท่าไหร่ ปราศจากความเสี่ยง อีกทั้งให้คุ้มครองชีวิต สร้างความมั่นคงให้กับคนข้างหลังได้ ทำให้เรามีเงินก้อนไว้ใช้ในอนาคต เมื่อส่งเบี้ยครบตามอายุสัญญา สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาทอีกด้วย ด้วยผลตอบแทนของประกันชีวิต ไม่เสียภาษีเหมือนดอกเบี้ยบัญชีออมทรัพย์
ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ หรือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ มีไว้สำหรับคนที่ต้องการความมั่นคงในชีวิต และ คนข้างหลังในอนาคต ส่วนใครที่กำลังมองหาที่ออมเงินสักแห่ง และ ต้องการความคุ้มครองชีวิตไปพร้อมกันด้วย แนะนำให้ลองศึกษา ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ เป็นช่องทางการออมเงินอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ได้ผลตอบแทนแน่นอน ปราศจากความเสี่ยง มีระยะเวลากำหนดแน่ชัด ใช้ลดหย่อนภาษีได้ แต่ถ้าใครเน้นอยากคุ้มครองชีวิตสูง ๆ ก็สามารถดูประกันชีวิตแบบอื่น ๆ ได้ หรือถ้าอยากได้ผลตอบแทนที่สูงกว่านี้ ก็ควรลงทุนในสินทรัพย์อย่างอื่นได้ แต่ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเลือกลงทุน หรือซื้อประกันชนิดใดก็ตาม ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรศึกษา และ เช็คความสามารถในจ่ายค่าเบี้ยประกันของตัวเอง เปรียบเทียบความคุ้มค่า ความเหมาะสมแก่ไลฟ์สไตล์ชีวิตของตัวเองด้วย ยิ่งไปกว่านั้นต้องศึกษาข้อดีให้มากที่สุดในการเลือก ประกันชีวิต แบบ ออม ทรัพย์ จึงเหมาะ และ มีข้อดีสำหรับใครที่ต้องการมองหาการออมได้อย่างมีระเบียบวินัย เพราะคุณจะไม่สามารถถอนออกมาได้ จนกว่าจะครบตามที่ระบุในสัญญา เรียกได้ว่าช่วยให้เป้าหมายในการออมของคุณเป็นจริง อีกทั้งยังมีข้อดีเหมือนกับประกันชนิดอื่น ตรงที่สามารถลดหย่อนภาษีได้เช่นเดียวกัน และ ให้ความคุ้มครองได้ดีเช่นเดียวกัน