มีสวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม เรามีคำตอบ

มีสวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม

มีสวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม ถึงแม้ว่าเราจะพึงพอใจในสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลที่เรามีอยู่​ แต่สำหรับการวางแผนบริหารจัดการความเสี่ยง​นั้น​ มีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบรอยรั่ว ของแผนประกันสุขภาพที่เราใช้อยู่ เพื่อการวางแผนที่รัดกุมยิ่งขึ้น และ เพื่อความอุ่นใจมากขึ้นหากต้องมีค่าใช้จ่ายที่สวัสดิการบริษัทคุ้มครองไม่ครอบคลุม มีสวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม เป็นมนุษย์เงินเดือน มีสวัสดิการจากบริษัท ช่วยดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลอยู่แล้ว แต่ทำไมต้องทำประกันสุขภาพเพิ่ม ? ถ้าเป็นสวัสดิการไม่ต้องจ่ายเบี้ยก็มีความคุ้มครองให้ ถ้าเจ็บป่วยก็เคลมได้ไม่ต้องออกเงินเอง เชื่อว่าหลายคนอาจกำลังตั้งคำถามนี้กันอยู่ วันนี้เราจึงจะมาบอก 4 เหตุผลที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราควรทำประกันสุขภาพเพิ่มจากสวัสดิการ จะมีอะไรบ้างนั่น มาดูกันเลย

มีสวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม มีเหตุผลดังนี้

สวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม คนมีสวัสดิการสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิประกันสังคม หรือ สวัสดิการนายจ้าง ก็ควรมีประกันสุขภาพไว้บ้าง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

  1. วงเงินไม่เพียงพอ สวัสดิการจากนายจ้างมักถูกกำหนดวงเงินสูงสุดต่อครั้ง หรือ ต่อปีไว้ เช่น ไม่เกินปีละ 200,000 บาท ซึ่งแม้ครอบคลุมค่ารักษากรณีเจ็บป่วยปกติ แต่หากเจ็บป่วย หรือ ประสบอุบัติเหตุรุนแรง หรือ ต้องนอนโรงพยาบาลยาวนาน วงเงินจากสวัสดิการ คงไม่เพียงพอ
  2. ไม่ครอบคลุมทุกค่าใช้จ่าย สวัสดิการของนายจ้างบางแห่งอาจจำกัดเฉพาะ การรักษาตัวของโรงพยาบาลรัฐ หรือ สิทธิประกันสังคมหากไม่ใช่เหตุฉุกเฉินก็ต้องไปตรวจรักษาตามโรงพยาบาลที่ระบุไว้เท่านั้น ซึ่งอาจมีข้อจำกัดในการเดินทางได้ และ ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ไม่ว่ารูปแบบการรักษา หรือ ตัวยาแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง สิทธิหรือสวัสดิการที่มีอยู่อาจไม่ครอบคลุม หรือ แม้แต่ประกันสุขภาพบางแบบก็อาจไม่คุ้มครองด้วยเช่นกัน
  3. มีเฉพาะตอนทำงาน สวัสดิการต่าง ๆ โดยเฉพาะจากนายจ้างเอกชนมักจำกัดแค่ช่วงที่ยังมีสถานะเป็นลูกจ้างอยู่ เมื่อลาออก หรือ เกษียณอายุแล้ว สวัสดิการนั้นมักจบไปพร้อมสถานะจ้างงานด้วย ซึ่งการเจ็บป่วยมักเกิดขึ้นได้บ่อย และ มีค่าใช้จ่ายสูง ในช่วงที่มีอายุมากขึ้น ซึ่งคงหนีไม่พ้นช่วงชีวิตหลังเกษียณ ซึ่งไม่สามารถเบิกสวัสดิการจากนายจ้างได้แล้ว
  4. เสี่ยงถูกเลิกจ้าง อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ยิ่งในช่วงเศรษฐกิจเปราะบางที่องค์กรเอกชนหลายแห่งประกาศลดพนักงาน ปรับลดต้นทุนต่าง ๆ เพื่อให้องค์กรอยู่รอดได้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้

สวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม แน่นอนว่าหากถูกเลิกจ้าง หรือ แม้แต่ถูกลดสวัสดิการบางอย่างลง ย่อมส่งผลต่อความเสี่ยงที่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองเมื่อเจ็บป่วยได้ จาก 4 เหตุผล ที่คนมีสวัสดิการควรซื้อประกันสุขภาพ เชื่อว่าหลายคนคงเห็นความสำคัญแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการเห็นความสำคัญ คือการตัดสินใจซื้อประกัน ก่อนสายเกินไป

มีสวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม ( ประกันสุขภาพมีแบบไหนบ้าง ) ?

สวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม ทำความรู้จักกับ ” ประกันสุขภาพ “

” ประกันสุขภาพ ” เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองด้านค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ให้แก่ผู้เอาประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นอาการป่วยเล็กน้อยที่ไปหาหมอแล้วรับยา กลับบ้าน หรือ เจ็บป่วยหนักจนต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลานานอย่างไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก ตลอดจนโรคร้ายแรงต่างๆ

สวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม ประเภทของ ” ประกันสุขภาพ ” มีแบบไหนบ้าง ? การแบ่งประเภทของ ” ประกันสุขภาพ ” ให้เข้าใจง่าย ๆ สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบหลัก ๆ คือ

  1. ประกันสุขภาพแบบกลุ่ม เป็นประกันสุขภาพที่บริษัทได้ซื้อเอาไว้เพื่อเป็นสวัสดิการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับพนักงานภายในองค์กร ซึ่งอาจจะมีทั้งความคุ้มครองต่ำ หรือ ความคุ้มครองสูง ขึ้นอยู่กับองค์กรนั้น ๆ
  2. ประกันสุขภาพส่วนบุคคล เป็นประกันสุขภาพที่ซื้อมาเพื่อคุ้มครองผู้เอาประกันรายเดี่ยว สามารถเลือก และ กำหนดได้ตามความต้องการของแต่ละคนให้เหมาะตามความเสี่ยงของคนนั้น ๆ

มีสวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม ( ความคุ้มครองใน " ประกันสุขภาพ " มีอะไรบ้าง ) ?

สวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม ความคุ้มครองใน ” ประกันสุขภาพ ” มีอะไรบ้าง ? ” ประกันสุขภาพ ” ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับอะไร และ คุ้มครองโรคอะไรบ้างนั้น ขึ้นอยู่กับหลักประกันสุขภาพในแต่ละแผนที่เราเลือกซื้อ เพราะประกันสุขภาพบางแผนอาจจะระบุความคุ้มครองโรคเฉพาะ แต่บางแผนก็อาจให้ความคุ้มครองมากกว่า 1 โรค เป็นต้น ดังนั้น เรามาดูความคุ้มครอง ” ประกันสุขภาพ ” ที่มีในปัจจุบันกันค่ะ

  1. ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน ประกันสุขภาพผู้ป่วยในจะให้ความคุ้มครองผู้ป่วย กรณีมีคำวินิจฉัยจากแพทย์ว่าต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง โดยผู้ป่วยสามารถตรวจเช็กกรมธรรม์ว่าประกันสุขภาพนี้คุ้มครองโรคอะไรบ้าง และ ให้ความคุ้มครองค่ารักษา ค่าห้อง เป็นจำนวนเงินเท่าไรบ้าง
  2. ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอกจะให้ความคุ้มครองในกรณีที่ผู้ป่วยรับการรักษาในโรงพยาบาล โดยไม่จำเป็นต้องแอดมิท ( นอนพักรักษาตัว ) เช่น คุ้มครองค่าตรวจ ค่ายา เป็นต้น
  3. ประกันโรคร้ายแรง ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษาโรคร้ายแรง โดยเฉพาะ รองรับการรักษาโรคที่ใช้เวลามาก และ มีค่าใช้จ่ายสูง ครอบคลุมถึงโรคจากการบาดเจ็บร้ายแรงที่จำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการรักษา
  4. ประกันอุบัติเหตุ ประกันอุบัติเหตุให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล เกี่ยวกับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่าง ๆ ตั้งแต่การบาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงทุพพลภาพ หรือ เสียชีวิต
  5. ประกันชดเชยรายได้ ประกันสุขภาพประเภทนี้ ทำหน้าที่จ่ายค่าสินไหมทดแทนกรณีที่ผู้เอาประกันมีอาการป่วย หรือ บาดเจ็บจนส่งผลให้ไม่สามารถไปทำงานได้

สวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม ถ้าเราอยากมีประกันสุขภาพไว้อุ่นใจยามเจ็บป่วย ซื้อเป็นของตัวเองดีที่สุด เพราะสวัสดิการของที่ทำงานอาจจะไม่ได้ครอบคลุมไปจนถึงหลังเกษียณ

สวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม เพราะเงื่อนไขหนึ่งของประกันสุขภาพ คือ ไม่คุ้มครองโรคเรื้อรัง หรือ สภาพที่เป็นมาก่อนการทำประกัน ดังนั้นเมื่อเห็นความสำคัญก็ต้องรีบตัดสินใจซื้อประกันทันที ตั้งแต่ก่อนเจ็บป่วยร้ายแรง หรือ เป็นโรคประจำตัว อย่ามัวแต่ชะล่าใจเพราะยิ่งปล่อยให้อายุมากขึ้น ความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยก็ยิ่งสูงขึ้นตามอายุไปด้วย สำหรับคนที่กังวลกรณีการรักษาค่าใช้จ่ายสูงหลักล้าน แต่รับได้กับค่าใช้จ่ายหลักหมื่น หรือ หลักแสนตอนหลังเกษียณ ปัจจุบันประกันสุขภาพมีรูปแบบให้เลือกที่หลากหลาย ซึ่งสามารถเลือกแบบที่คุ้มครองเฉพาะค่าใช้จ่ายส่วนเกินจากจำนวนที่กำหนดได้ เช่น ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 1 แสนบาท เราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด แต่หากมีค่าใช้จ่ายเกิน 1 แสนบาท ประกันจะคุ้มครองค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินนั้น ซึ่งเป็นแบบที่ค่าเบี้ยถูกเมื่อเทียบกับประกันสุขภาพแบบอื่น สวัสดิการบริษัทแต่ทำไมประกันสุขภาพยังต้องทำเพิ่ม ประกันสุขภาพมีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าจำเป็นต้องใช้แล้วไม่มี และ ต้องเลือกให้ดี ทั้งความคุ้มครองที่ครอบคลุม ค่าเบี้ยที่รับได้ และ การต่ออายุความคุ้มครองที่ปัจจุบันมีให้เลือกนานสุดถึงอายุ 99 ปีเลยค่ะ