เมื่อมีคอนโดเป็นของตัวเอง หรือใครที่เช่าคอนโดอยู่นั้น ก็คงมองหาการทำประกันคอนโดอยู่ก็เป็นได้ บทความนี้จะช่วย เปรียบเทียบประกันคอนโด หรือแนะนำกับแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองได้เป็นอย่างดี โดยมีทุนประกันเป็นจำนวนมาก แต่คุณสามารถจ่ายเบี้ยเพียงแค่หลักร้อย หลักพันเท่านั้นเอง ทั้งนี้ ประกันคอนโด หรือประกันอัคคีภัยนั้น ก็คือ การประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ และ ทรัพย์สินของเรา ที่จากเหตุไฟไหม้ รวมถึงความเสียหายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ที่เกิดจากเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามนั้น บางบริษัทประกัน ก็อาจจะรวมความคุ้มครองจากภัยพิบัติอื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วย โดยมีการเรียกรวมกันว่า ประกันภัยทรัพย์สินนั่นเอง เพราะนอกจากจะคุ้มครองทรัพย์สิน จากเหตุเพลิงไหม้แล้ว ประกันยังคุ้มครองทรัพย์สินจากภัยต่าง ๆ อีกด้วย อาทิเช่น ลมพายุ น้ำท่วม หรือเหตุการณ์แผ่นดินไหว ฉะนั้นผู้ซื้อ จะต้องอ่าน และ ศึกษารายละเอียดการคุ้มครองให้ดีที่สุด ให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจซื้อประกัน และ จะมีแผนประกันจากบริษัทอะไรบ้าง อ่านต่อได้เลย
เปรียบเทียบประกันคอนโด จากธนาคารกสิกรไทย ปกป้องดูแลได้เป็นอย่างดี
เปรียบเทียบประกันคอนโด จากบริษัทแรก ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ที่ค่าเบี้ยจะคำนวณจากลักษณะ โครงสร้างของคอนโด หรือบ้าน แต่รวม 4 ความคุ้มครองในหนึ่งเดียวเรียบร้อยแล้ว ให้การปกป้องดูแลจากอัคคีภัย และ อื่น ๆ อีกทั้งยังมีครอบคลุมค่าที่พักชั่วคราว เมื่อบ้านเกิดไฟไหม้ หรือ เสียหายจากภัยธรรมชาติ สูงสุด 1,000 บาทต่อวันอีกด้วย รวมแล้วสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท ตลอดระยะเวลาเอาประกันภัยนั่นเอง ส่วนใครที่กำลังมองหาประกันคอนโดสำหรับที่อยู่อาศัยของคุณนั้น ประกันอัคคีภัย จากธนาคารกสิกรไทย ให้มีความครอบคลุมถึง 4 ความคุ้มครองในประกันเดียว ได้แก่ ภัยธรรมชาติ และ ไฟไหม้ ก็คือ น้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว สึนามิ และ ลูกเห็บ อีกทั้งยังมีความเสียหายต่อกระจก การโจรกรรม รวมไปถึงความรับผิดต่อบุคคลภายนอกอีกด้วย
เปรียบเทียบประกันคอนโด จากเมืองไทยประกันชีวิต ยิ้มได้เมื่อภัยมา
เปรียบเทียบประกันคอนโด ของบริษัทต่อมาก็คือ การประกันอัคคีภัย สำหรับที่อยู่อาศัย ให้ความคุ้มครองจากเหตุไฟไหม้ จากภัยธรรมชาติ วางแผนคุ้มครองให้เรื่องหนักกลายเป็นเบาได้ ทั้งตัวบ้าน หรือทรัพย์สินอื่น ๆ ด้วยเบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 645.21 บาทเท่านั้น ได้รับทุนประกันภัยสูงสุดถึง 5 ล้านบาท ถือได้ว่าคุ้มค่ามาก อีกทั้งยังมีเบี้ยที่ไม่แพงมากจนเกินไปอีกด้วย สำหรับประกันอัคคีภัย จากเมืองไทยประกันชีวิต ตัวนี้ จะมีการแบ่งออกเป็น 2 แบบประกัน นั่นก็คือ ประกันบ้านที่เป็นผนังคอนกรีตล้วน และ ครึ่งตึกครึ่งไม้ โดยทั้งสองแบบนั้น จะคุ้มครองภัยหลัก ๆ ภัยที่เกิดจากไฟไหม้ภัยจากฟ้าผ่า รวมไปถึง ความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ และอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่เกิดจากการลัดวงจรจากฟ้าผ่า รวมไปถึงภัยอื่น ๆ อีกด้วย แต่จะยังไม่รวมภัยจากน้ำท่วมเท่านั้นเอง นอกจากนี้กรมธรรม์อัคคีภัยแผนนี้ ยังให้ความคุ้มครองเพิ่มเติม สำหรับค่าเช่าที่อยู่อาศัยชั่วคราวอีกด้วย ในกรณีหากที่อยู่อาศัยของเรา ได้รับความเสียหายจากภัยที่คุ้มครองข้างต้นได้อีกด้วย
เปรียบเทียบประกันคอนโด จาก กรุงเทพประกันภัย ด้วยโครงการรักษ์บ้าน
เปรียบเทียบประกันคอนโด จากบริษัทสุดท้ายก็คือ โครงการประกันภัยรักษ์บ้าน จากกรุงเทพประกันภัย โดยจะมอบความคุ้มครอง ที่ครอบคลุมทรัพย์สินไว้ทั้งหมด ได้อย่างครบถ้วน แต่สิ่งปลูกสร้างที่เอาประกันภัยนั้น จะต้องเป็นสิ่งปลูกสร้าง ที่เป็นผนังก่ออิฐถือปูน และ จำนวนเงินที่เอาประกันภัยต่อฉบับ และ ต่อสถานที่นั้น จะต้องไม่เกิน 20 ล้านบาท เบี้ยประกันภัย จะสามารถกำหนดได้ จากจำนวนเงินเอาประกันภัย 1,000,000 บาท หากมีความต้องการ จำนวนเงินเอาประกันภัยที่สูงกว่า ที่กำหนดไว้ ก็สามารถติดต่อตัวแทนของบริษัทได้ โดยแผนนี้จะให้ความคุ้มครอง ก็คือ
- สิ่งปลูกสร้าง ที่ได้แก่ คอนโดมิเนียม บ้าน ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด ตึกแถวสำหรับอยู่อาศัย โรงรถ และ อาคารย่อย ที่ได้แก่ เรือนคนใช้ รวมถึงกำแพง รั้ว ประตู และ ส่วนปรับปรุงต่อเติม ของห้องชุดสำหรับอยู่อาศัยในแฟลต
- เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เครื่องตกแต่ง เครื่องมือ เครื่องใช้ภายในบ้าน รวมไปถึง เครื่องใช้ไฟฟ้า และ อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านต่าง ๆ เครื่องดนตรี เครื่องเสียง เครื่องครัว เครื่องนุ่งห่ม และ ทรัพย์สินเพื่อการอยู่อาศัยอื่น ๆ อีกด้วย
ประกันอัคคีภัย หรือประกันคอนโด เป็นสิ่งที่เจ้าของบ้าน หรือผู้ที่อยู่อาศัยนั้นควรจะให้ความสนใจ และ ทำการศึกษาข้อมูล รายละเอียดอย่างถี่ถ้วนให้มากที่สุด อีกทั้งควรจะมีการวางแผนเกี่ยวกับการเงิน สำหรับการทำประกันอัคคีภัยไว้ตั้งแต่แรกอีกด้วย เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายได้ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันเหตุไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นได้ กับอสังหาริมทรัพย์ ฉะนั้นการ เปรียบเทียบประกันคอนโด จึงควรเลือกประกัน ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ มีตัวแทนที่สามารถติดต่อได้ตลอด หรือมีสาขาใกล้กับสถานที่เอาประกัน เพื่อความสะดวกสบาย และ รวดเร็วในการเคลม หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า และ เหมาะสมของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย