เปรียบเทียบประกันสุขภาพ 2566

เปรียบเทียบประกันสุขภาพ 2566 ควรเลือกแบบไหนดี ให้เหมาะกับตนเอง

เปรียบเทียบประกันสุขภาพ 2566 ควรเลือกประกันแบบไหนดี ให้เหมาะสมกับตนเอง เพราะปัญหาด้านสุขภาพ เป็นเรื่องที่ไม่ได้ไกลตัวมากนัก อาจจะมาแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ใครหลายคน กำลังมองหาประกันอยู่นั่นเอง และทางเรา ได้ทำการเลือกแผนประกันสุขภาพ มาแนะนำให้คุณรู้จัก ว่าแต่ละแผนเป็นอย่างไร และ เหมาะสมกับใครมากที่สุด ประกันสุขภาพที่ไหนดี 2566 หาคำตอบไปกับ Pakanpaide ได้เลย

ประกันสุขภาพ ที่ไหนดี เคลมง่าย แล้วประกันสุขภาพแบบไหนดี ปี 2566

เปรียบเทียบแผนประกันสุขภาพ ของบริษัทไหนดี อันดับแรก ทำความเข้าใจก่อน

เปรียบเทียบแผนประกันสุขภาพ 2566 สำหรับอาการเจ็บป่วย และ อุบัติเหตุต่าง ๆ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หลายคนจึงต้องการ ลดความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น ด้วยการซื้อประกันสุขภาพ ติดตัวเอาไว้ก่อน บางคนอาจจะลังเลอยู่ว่า จะทำประกันสุขภาพ ของบริษัทไหนดี และ ควรเลือกแผนประกัน แบบไหนเป็นพิเศษ เราจึงนำแผนประกันสุขภาพ มาเปรียบเทียบให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ความคุ้มครอง หรือ ค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย อันดับแรกควรทำความเข้าใจ จากบทความด้านล่างกันก่อน

เปรียบเทียบประกันสุขภาพ 2566 มีรูปแบบอะไรบ้าง ต่างกับประกันชีวิตอย่างไร

หลายคนได้ซื้อประกันเอาไว้ หากเกิดกรณีเจ็บป่วย แบบไม่คาดคิด อาจมีความสงสัยว่า ทำไมถึงเบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ได้ เป็นเพราะคุณอาจไม่เข้าใจ อย่างแท้จริงว่า ประกันสุขภาพคุ้มครองอะไร โดยเราขอแนะนำประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ประกันชีวิต

ประกันที่คุ้มครอง กรณีเสียชีวิตเป็นหลัก นั่นก็คือ จะได้เงินต่อเมื่อตัวเราเสียชีวิต หากเกิดเจ็บป่วย ต้องเข้ารับการรักษา ในโรงพยาบาล จะไม่สามารถ เบิกค่ารักษาพยาบาลได้

  • ประกันชีวิต แบบตลอดชีพ ค่าเบี้ยประกันไม่แพง ความคุ้มครองสูง จนถึงอายุ 85 – 99 ปี จะได้รับเงินคืนต่อเมื่อ ได้มีอายุครบตามสัญญา แต่กรณีเสียชีวิตก่อน ผู้รับผลประโยชน์ จะได้รับเงินประกันไป และ ประกันชีวิต แบบตลอดชีพ เหมาะสมกับใครบ้าง
  • หัวหน้าครอบครัว หรือ คนที่เป็นเสาหลักครอบครัว อยากมีเงินสักก้อน เอาไว้เป็นมรดก เป็นค่าใช้จ่ายหลังเสียชีวิต ค่าเบี้ยประกันไม่แพง แต่ให้ทุนประกันสูงกว่า ประเภทอื่น ๆ
  • คนที่ต้องการซื้อประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง ประกันชดเชยรายได้ที่ต้องพ่วงกับประกันชีวิต
  • คนที่ต้องการลดหย่อนภาษี โดยใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท
  • ประกันชีวิต แบบสะสมทรัพย์ เน้นการออมเงินควบคู่กับ ความคุ้มครองชีวิต โดยระยะเวลาคุ้มครองสั้น มากกว่าแบบตลอดชีวิต ยกตัวอย่างเช่น แผน 10 / 1 (จ่ายเบี้ย 1 ปี คุ้มครอง 10 ปี) และ แผน 15 / 8 (จ่ายเบี้ย 8 ปี คุ้มครอง 15 ปี) อาจจะได้รับเงินคืน ระหว่างสัญญา หรือ รับเงินคืนครบอายุ สัญญาเลยทีเดียว และ ประกันชีวิต แบบสะสมทรัพย์ เหมาะสมกับใครบ้าง
  • หัวหน้าครอบครัว หรือ คนที่เป็นเสาหลักครอบครัว
  • คนที่ต้องการออมเงิน และ รับความคุ้มครองชีวิต หากอยู่ครบอายุสัญญา จะได้รับเงินก้อน แต่หากเสียชีวิตก่อน ผู้รับผลประโยชน์ จะได้รับเงินก้อนไป
  • คนที่ต้องการลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาท
  • ประกันชีวิต แบบบำนาญ เป็นประกันช่วยออมเงิน แบบระยะยาว จ่ายผลประโยชน์ คืนให้ทุกเดือน หลังจากอายุ 55 ปี หรือ 60 ปี อายุครบตามสัญญา และ ประกันชีวิต แบบบำนาญ เหมาะสมกับใครบ้าง
  • คนที่ต้องการรายได้ประจำ หลังจากเกษียณอายุ
  • คนที่ไม่มีหลักประกัน อาทิ ไม่ได้เป็นข้าราชการ , ไม่มีเงินบำเหน็จบำนาญ และ ไม่ได้เข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 
  • คนที่ต้องการลดหย่อนภาษีไม่เกิน 15% ของเงินที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี

ประกันจ่ายเงินชดเชย ค่ารักษาพยาบาล อย่างไรกันบ้าง

ประกันชดเชยรายได้ เปรียบเทียบ บริษัทจะจ่ายเงินชดเชย หรือ ค่ารักษาพยาบาล กรณีเจ็บป่วยหลายรูปแบบ นั่นก็คือ

  • ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน (IPD) ความคุ้มครองกรณีเจ็บป่วย นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 6 ชั่วโมงขึ้นไป
  • ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) ความคุ้มครองกรณีเจ็บป่วยทั่วไป ที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
  • คนที่มีประกันสังคม , สิทธิบัตรทอง , สิทธิข้าราชการ อยากได้วงเงินคุ้มครอง ค่ารักษาพยาบาลมากยิ่งขึ้น สามารถเข้าโรงพยาบาลอื่น ๆ นอกเหนือจากสิทธิของตนเองได้
  • คนที่ทำงานอิสระ ที่ไม่มีสิทธิรักษาพยาบาล , ไม่มีประกันสังคม , ไม่มีประกันกลุ่ม
  • เด็กเล็กเจ็บป่วยได้ง่าย
  • คนที่มีสุขภาพดี แต่มีความกังวล การเจ็บป่วยในอนาคต
  • คนที่ต้องการรักษาพยาบาล ที่โรงพยาบาลเอกชนต่าง ๆ
  • ประกันโรคร้ายแรง หากป่วยด้วยโรคร้ายแรง ตามบริษัทประกัน ที่ได้กำหนดเอาไว้ จะได้รับเงินก้อนทันที และ ประกันโรคร้ายแรง เหมาะสมกับใครบ้าง
  • คนในครอบครัว ที่มีประวัติโรคร้ายแรง หรือ โรคทางพันธุกรรม
  • คนที่ทำงานอยู่กับสภาพแวดล้อม อากาศเป็นมลพิษ เสี่ยงต่อการเกิดโรค
  • คนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ได้แก่ สูบบุหรี่ , ดื่มแอลกอฮอล์ , นอนดึกเป็นประจำ , กินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ และอื่น ๆ
  • ประกันชดเชยรายได้ เป็นแผนที่ได้รับเงินชดเชย แบบรายวัน หากต้องนอนโรงพยาบาล หรือ ผ่าตัดใด ๆ และ ประกันชดเชยรายได้ เหมาะสมกับใครบ้าง
  • อาชีพอิสระ , เจ้าของกิจการ , พ่อค้า , แม่ค้า และอาชีพอื่น ๆ หากทำงานไม่ได้ เปิดร้านไม่ได้ หรือ ต้องหยุดงานกะทันหัน
  • พนักงานประจำ หรือ ผู้ที่กังวลการเจ็บป่วย จนไม่สามารถทำงานได้
  • คนที่ต้องการเพิ่มสวัสดิการ ค่าห้องผู้ป่วยใน (IPD) ได้แก่ มีประกันสุขภาพ หรือ ประกันกลุ่ม แต่ค่าห้องไม่เพียงพอ อาจทำประกันชดเชยรายได้ เพื่อนำเงินไปจ่ายส่วนต่างก่อน

เปรียบเทียบประกันสุขภาพ 2566 คุณควรศึกษาข้อมูล และ สอบถามรายละเอียดให้ชัดเจน เพราะแต่ละบริษัท มีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป ก่อนจะตัดสินใจทำประกันนั่นเอง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครอง อย่างสมบูรณ์มากที่สุด ลดความเสี่ยง ลดความเสียหาย จากค่ารักษาพยาบาลสูงได้ เปรียบเทียบบริษัท เลือกแบบแผนให้หลากหลาย เริ่มต้นราคาไม่แพง ไปจนถึงระดับพรีเมียม