ประกันภัยรถยนต์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง และ แต่ละประเภท ต่างกันอย่างไร
ประกันภัยรถยนต์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง หลายคนทราบกันดีว่า ประกันภัยรถยนต์ มีอยู่หลากหลายประเภท โดยแต่ละประเภทนั้น ก็มีความคุ้มครอง แตกต่างกันออกไป และประกันรถยนต์ ประเภทไหนบ้างละ ที่ได้เหมาะสมกับคุณ เข้ามาศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ และการขับขี่ที่ดีกว่า ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Pakanpaide
ความคุ้มครอง ประกันภัยรถยนต์มีกี่ประเภท เป็นอย่างไรกันบ้าง
ประกันภัยมีกี่ประเภท อะไรบ้าง หากคุณต้องการ ความเข้าใจอย่างรวดเร็ว เรามาดูกันเลยดีกว่าว่า ความคุ้มครองของแต่ละประเภท จะคุ้มครองรถของเราแบบไหน หรือ ไม่คุ้มครองแบบไหน จากบทความด้านล่าง
ประกันภัย ประเภท 1 คุ้มครองอะไรบ้าง มาดูกัน เป็นประกันภัยรถยนต์ ที่ได้รับความนิยมมาก ถึงแม้ว่าจะต้องจ่ายเบี้ย รายปีสูงสุดก็ตาม ให้ความคุ้มครองครอบคลุม ยานพาหนะของทั้งสองฝ่าย เมื่อผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด โดยความคุ้มครองแบบคร่าว ๆ เช่น ความบาดเจ็บ , ความเสียหายต่อตัวรถ , การถูกโจรกรรม , ความเสียหายจากธรรมชาติ และ ค่าใช้จ่ายการลากจูงรถ เป็นต้น
ประกันภัยรถยนต์ ให้ความคุ้มครองร่างกาย การบาดเจ็บ และ ทรัพย์สินเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น ไม่มีการคุ้มครอง สำหรับผู้เอาประกัน หากเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ เมื่อผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด รวมถึงให้ความคุ้มครอง ความสูญหาย และ เหตุไฟไหม้ ตัวรถยนต์ของผู้เอาประกันภัย เหมาะกับผู้ที่ขับรถเก่งระดับหนึ่ง แต่ต้องจอดรถสถานที่เปลี่ยวบ่อย ๆ
ประกันภัยรถยนต์ ราคาเบี้ยประกันถูกที่สุด ให้ความคุ้มครอง เฉพาะชีวิตร่างกาย และ ทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น เมื่อผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด โดยมีคุ้มครอง ไม่เกินวงเงิน ที่ได้ระบุเอาไว้
ประกันภัยรถยนต์ ราคาเบี้ยประกันถูกที่สุด ให้ความคุ้มครองไม่มากนัก เหมาะกับผู้ที่ใช้รถระยะใกล้ , ใช้งานเพียงไม่กี่ครั้ง , แทบจะไม่ค่อยได้ใช้งาน , จอดรถที่มิดชิด ไม่มีความเสี่ยง และ ไม่มีความเสี่ยง การเกิดไฟไหม้ด้วย เพราะไม่มีความคุ้มครอง ในส่วนที่ได้กล่าวข้างต้น แต่มีความคุ้มครองทรัพย์สิน บุคคลภายนอกเท่านั้น เมื่อผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ของรถของผู้เอาประกันเอง
ประกันภัยรถยนต์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง และ ประเภท 5 แตกต่างมากหรือไม่
ประกันภัยรถยนต์ สำหรับประเภท 5 เป็นการรวมกัน ของประกันชั้น 2+ และ 3+ โดยจะแตกต่างกันเล็กน้อย ดังต่อไปนี้
ประกันภัยรถยนต์ ให้ความคุ้มครอง เหมือนประเภท 2 แต่มีส่วนเพิ่มเติม นั่นก็คือ คุ้มครองต่อตัวรถยนต์ ของผู้เอาประกันภัย ในวงเงินที่ได้ตกลงเอาไว้ ยังมีการคุ้มครอง เกี่ยวกับภัยธรรมชาติ โดยมีราคาเบี้ยประกัน สูงมากกว่าประเภท 2 เพียงแค่เล็กน้อย
ในส่วนของประกันภัยรถยนต์นั้นให้ความคุ้มครอง เหมือนกับประเภท 3 แต่มีส่วนเพิ่มเติม นั่นก็คือ ให้ความคุ้มครองต่อตัวรถยนต์ของผู้เอาประกันภัย อีกทั้งคู่กรณี จะไม่ได้รับความคุ้มครอง ในส่วนของรถยนต์ไฟไหม้อีกด้วย
ประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง
คุณจะเห็นได้ว่า ประกันภัยแต่ละประเภท ได้มีความคุ้มครอง แตกต่างกันออกไป การเลือกทำประกันภัย ในแต่ละครั้ง จึงมีความสำคัญมาก และ อยู่กับปัจจัยหลายอย่าง สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง แต่ไม่ว่าจะทำประกันภัย ประเภทใดก็ตาม คุณควรขับขี่ด้วยความไม่ประมาท เพื่อความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว และเพื่อนร่วมทาง
เพียงอ่านเท่านี้ก็รู้แล้วว่า ประกันภัยรถยนต์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง และ แต่ละประเภทคุ้มครองอย่างไร ควรเลือกแบบไหน ให้เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด หากคุณมีคำตอบอยู่แล้ว เข้ามาเช็กค่าเบี้ยประกันภัย ผ่านทางเว็บไซต์ Pakanpaide เพื่อทราบข้อมูลพื้นฐาน ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น อาจจะเป็นตัวช่วย ในการเลือกทำประกันภัย ของใครหลายคน และ บริหารจัดการความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี