ประกันรถแบบไหนดี ประกันรถยนต์ชั้นไหนเหมาะสมกับคุณ ประกันรถยนต์ แบบไหนดี ที่เหมาะกับลักษณะการใช้รถของคุณ ซึ่งแน่นอนว่าการเลือกประกันรถยนต์ทุกคนล้วนต้องเลือกให้ดี และ “ คุ้มค่ามากที่สุด ” เพื่อให้สามารถตอบโจทย์เรื่องการคุ้มครองได้อย่างเต็มที่ และ ในเมื่อแต่ละคนนั้นก็มีพฤติกรรมการขับ รวมไปถึงรูปแบบการใช้รถที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นแน่นอนว่าการเลือก ซื้อประกันรถยนต์ แต่ละรูปแบบจึงต้องมีการศึกษาข้อมูล และ ตรวจสอบให้ดีก่อนทุกครั้ง ประกันรถยนต์ชั้นไหนเหมาะสมกับคุณ จะมือใหม่หัดขับ หรือ ใครที่ขับแข็งชำนาญ ใช้รถขับไปทำงานเป็นประจำอยู่แล้ว หรือ รถบางคันใช้ขับแค่วันหยุด ไม่ว่าจะแบบไหนก็ต้องเลือกให้เหมาะกับรถ และ คนขับมากที่สุด และ วันนี้เราจะพาคุณไปดูกันว่า ประกันรถแบบไหนดี “ ดีที่สุดสำหรับคุณ ”
ประกันรถแบบไหนดี ประกันรถยนต์ ชั้นไหน เหมาะกับคุณ ความคุ้มครองประกันแต่ละประเภท
ประกันรถยนต์ชั้นไหนเหมาะสมกับคุณ แต่ละประเภทคุ้มครองอะไรบ้าง ?
ประกันรถยนต์ชั้น1
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสูงสุดครอบคลุม รถสูญหาย , ไฟไหม้ , น้ำท่วม , ผิดถูกรับผิดชอบทุกกรณี จึงมีทุนประกันรถที่สูง ราคาเบี้ยจึงสูงตามความคุ้มครองจึงเหมาะกับรถใหม่หรือที่ใช้รถเดินทางบ่อย
ประกันรถยนต์ชั้น2+
การทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองรถสูญหาย , ไฟไหม้ , เคลมอุบัติเหตุรถชนรถเท่านั้น ทุนประกันรถยนต์น้อยกว่าชั้น 1 ราคาเบี้ยประกันรถยนต์จึงถูกกว่า เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ใช้รถ หรือ ขับไปทำงานแล้วจอดรถไว้เฉย ๆ รถเก่าก็ทำได้ไม่ต้องตรวจสภาพรถ จึงไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเบี้ยแพงๆ
ประกันรถยนต์ชั้น3+
ประกันรถยนต์ชั้นนี้จะไม่คุ้มครองรถสูญหาย ไฟไหม้ แต่จะคุ้มครองอุบัติเหตุรถชนรถที่มีคู่กรณีเท่านั้น ประกันรถยนต์ประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้รถ ขับรถไม่ค่อยเกิดอุบัติเหตุ และ ที่สำคัญไม่ต้องตรวจสภาพรถ และ ไม่จำกัดอายุรถ ทำให้เบี้ยประกันรถประเภท 3+ มีราคาถูก
ประกันรถยนต์ชั้น3
ประกันรถยนต์ชั้นนี้จะคุ้มครองรถคู่กรณี อายุรถไม่เกิน 20 – 30 ปีก็สามารถเรียกบริษัทประกันภัยมาที่เกิดเหตุได้ มีไว้อย่างน้อยก็อุ่นใจ
ประกันรถยนต์ชั้นไหนเหมาะสมกับคุณ ทั้งนี้เงื่อนไขขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัยแต่ละบริษัท
ประกันรถยนต์ชั้นไหนเหมาะสมกับคุณ ประกันรถแบบไหนดี วิเคราะห์อย่างไร ?
ประกันรถยนต์ชั้นไหนเหมาะสมกับคุณ แม้ว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองครอบคลุมการซ่อมทั้งหมด แต่จริง ๆ แล้วการใช้รถของคุณ จำเป็นจะต้องจ่ายค่าเบี้ยแพง ๆ สำหรับประกันชั้น 1 หรือเปล่า หรือ มีทางเลือกอื่น ๆ ที่เหมาะสมกว่า เราจึงได้แบ่งลักษณะผู้ขับรถออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- มือใหม่หัดขับ ยังขาดประสบการณ์การขับขี่ สำหรับใครที่เพิ่งออกรถใหม่ หรือ หัดขับรถ ยังขับไม่คล่อง แนะนำให้ ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 “ ดีที่สุด ” ซึ่งสามารถช่วยคุณได้เป็นอย่างดี เนื่องด้วยประสบการณ์ที่น้อย และ ยังขับไม่ชำนาญอาจจะส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และ เฉี่ยวชนได้สูง โดยประกันภัยชั้น 1 นั้นถือว่าคุ้มครองครบ และ ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าต้องจ่ายเบี้ยประกันที่สูงเช่นเดียวกัน แต่ก็สามารถคุ้มครองคุณได้เป็นอย่างดี โดยเหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งหัดขับขี่รถยนต์ ที่นอกจากจะสามารถคุ้มครองอุบัติเหตุได้ ทั้งในกรณีที่ไม่มีคู่กรณี หรือ กรณีที่มีคู่กรณีแล้ว ยังรวมไปถึง ภัยธรรมชาติ , น้ำท่วม , โจรกรรม , ไฟไหม้ และ รถหาย ช่วยซ่อมรถ และ ทรัพย์ให้แก่คุณ และ คู่กรณี การจ่ายค่ารักษาพยายามให้คู่กรณี ผู้ขับขี่รวมถึงผู้โดยสารอีกด้วย
- ผู้ขับรถชำนาญ มีประสบการณ์การขับขี่ สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ และ ขับขี่คล่องแล้ว มีความสามารถในการรักษากฎจราจร มีวินัย และ สติ แนะนำให้ทำประกันภัยชั้น 2+ ที่สามารถคุ้มครองในเรื่อง โจรกรรม , รถสูญหาย , ไฟไหม้ รวมถึงการให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุกรณี “ รถชนรถ ” ( มีคู่กรณี ) ที่จะช่วยซ่อมรถ และ ทรัพย์สินให้คู่กรณี รวมถึงการซ่อมรถของคุณเอง จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งแก่ผู้ขับขี่ และ ผู้โดยสาร
ประกันรถยนต์ชั้นไหนเหมาะสมกับคุณ เรียกได้ว่าการเลือกซื้อประกันภัยให้ตอบโจทย์ความต้องการ และ ลักษณะการใช้รถยนต์ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายมากนัก และ สิ่งสำคัญมากกว่านี้ก็คือการเลือก ประกันรถแบบไหนดี จากบริษัทประกันภัยต่าง ๆ ที่จะต้องมีการเปรียบเทียบข้อมูล และ เช็คเบี้ยประกัน ให้ตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุด
ประกันรถยนต์ชั้นไหนเหมาะสมกับคุณ ประกันแต่ละชั้นเหมาะกับรถแบบไหน ?
ประกันรถยนต์ชั้นไหนเหมาะสมกับคุณ เรามาดูกันว่า แต่ละชั้น นั้นเหมาะกับรถแบบไหน ลักษณะการใช้งานแบบไหน
ชั้นที่ 1 เหมาะกับ
- รถป้ายแดงที่เพิ่งออกมาที่ต้องการการคุ้มครองดูแลที่ครอบคลุม หรือรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี
- ผู้ที่ยังขับรถไม่ค่อยแข็ง เพราะอาจจะเฉี่ยว ชน ได้ง่ายกว่า แบบทั้งมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี
- ผู้ที่ขับรถเร็ว
- ผู้ที่ต้องใช้รถบ่อยๆ
- รถที่ต้องขับทางไกล ออกต่างจังหวัดบ่อยๆ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุมากขึ้นแม้ว่าจะขับรถแข็ง และชำนาญทางแล้วก็ตาม อีกทั้งยังคุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติอีกด้วย
ชั้น 2+ และ 3+ เหมาะกับ
- รถที่ไม่ค่อยได้ใช้งานมาก เพราะให้ประหยัดค่าเบี้ย
- หากต้องจอดในที่ไม่ได้มีการรักษาความปลอดภัยมากนัก เราก็ขอแนะนำให้ทำแบบ 2+
- แต่ถ้าที่จอดรถของคุณมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี รถไม่มีความเสี่ยงไฟไหม้ ก็ทำแค่ 3+ ก็ได้
- รถมีอายุเกิน 7 ปี
ชั้น 2 และ 3 ธรรมดา เหมาะกับ
- คนที่ขับรถชำนาญ มีประสบการณ์ขับรถเยอะแล้ว มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุขับรถไปชนคนอื่นน้อย
- อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะไม่หนัก
- รถมีอายุเกิน 7 ปี
ประกันรถยนต์ชั้นไหนเหมาะสมกับคุณ เพียงแค่เลือกประกันแบบที่เหมาะกับพฤติกรรมการใช้รถของคุณ แค่นี้คุณก็จะได้ประกันที่คุ้มค่า และ เหมาะสมแล้ว
ประกันรถยนต์ชั้นไหนเหมาะสมกับคุณ การมีประกันภัยรถยนต์ ติดไว้ก็เหมือนเป็นการเลี่ยงความเสี่ยงที่เกิดจากอุบัติเหตุ ในการใช้รถของคุณให้กับบริษัทประกันภัย โดยคุณในฐานะผู้เอาประกันจะต้องทำการจ่ายค่าเบี้ยประกันตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และ เมื่อ “ เกิดเรื่อง ” มีการเกิดอุบัติเหตุ หรือ ความเสียหายแก่รถยนต์ และ ผู้เอาประกันภัย ทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ ก็จะทำการคุ้มครอง และ ชดเชยค่าสินไหมทดแทนให้ ทั้งค่าซ่อมรถ , ค่ารักษาพยาบาล , ค่าประกันตัว ฯลฯ ประกันจะจ่ายให้หมดตามรูปแบบประกันที่ซื้อไว้ ชั้น 1 , 2 , 3 ฯลฯ เรียกได้ว่า เป็นการลดความเสี่ยง และ ช่วยคุ้มครองผู้ขับขี่รถยนต์ที่ใช้รถใช้ถนนท่ามกลางอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ ประกันรถยนต์ชั้นไหนเหมาะสมกับคุณ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันการซื้อประกันภัยรถยนต์มีอยู่หลายรูปแบบ ทำให้หลาย ๆ คนสงสัยว่าควรที่จะเลือก ประกันรถยนต์ที่ไหนดี แบบไหนดี ที่จะสามารถครอบคลุมทุกความเสี่ยงทุกการขับขี่ และ คุ้มค่ามากที่สุดภายใต้ความสอดคล้องกับลักษณะการใช้รถ เราหวังว่าบทความข้างต้นจะช่วยให้ท่านหาประกันรถยนต์ที่เหมาะกับท่านมากที่สุดได้นะคะ
