รถยนต์ยางแตกแจ้งเคลมประกันได้ไหม หากพูดถึงเรื่องของยางรถยนต์ไม่ว่าจะยางล้อแตก ยางระเบิด ยางรั่ว แต่บางครั้งเหตุสุดวิสัยก็สามารถเกิดขึ้นได้ เช่น ยางล้อแตก ยางระเบิด ฯลฯ ซึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องรีบทำหลังเกิดเหตุก็คือ แจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อเคลมประกัน เพราะยางรถยนต์ และ ล้อรถยนต์นั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ เพราะสามารถพาเราไปให้ถึงจุดหมายปลายทางได้ ยิ่งเรารู้ว่ายางรถยนต์ และ ล้อรถยนต์นั้นสำคัญ เรายิ่งต้องคอยหมั่นดูแลรักษายางรถยนต์ของเราให้ดี ๆ เพราะถ้าเราไม่หมั่นเช็คยางรถยนต์ก็อาจจะเป็นเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ แต่หลายคนคงสงสัยกันว่าถ้ามีกรณีเกี่ยวกับยางรถยนต์ เช่น ยางรถยนต์แตก จะเคลมประกันได้ไหม วันนี้เรามีคำตอบค่ะ คุณสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pakanpaide.com
รถยนต์ยางแตกแจ้งเคลมประกันได้ไหม มีเงื่อนไขอย่างไร ?
บริษัทประกันภัยจะเคลมยางรถได้ในกรณีที่ยางแตก หรือ ระเบิดที่เกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้น เช่น ขับรถตกหลุมอย่างแรง เบียดฟุตบาท มีแรงกระแทกทำให้ยางระเบิด สาเหตุเหล่านี้จึงจะสามารถแจ้งเคลมประกันรถยนต์ประเภท 1 ได้ค่ะ แต่ประกันจะรับผิดชอบเพียง 50% ของราคายางเท่านั้น โดยไม่มีความเสื่อมสภาพมาเกี่ยวข้อง เพราะว่ายางรถยนต์เป็นอุปกรณ์ ที่มีความเสื่อมสภาพจากการใช้งาน หากเป็นยางที่เปลี่ยนมาใหม่ เราสามารถนำหลักฐานการเปลี่ยนยางที่ระบุวันที่ชัดเจนมาเคลม ค่ายางตามความเป็นจริง ส่วนยางระเบิดที่เกิดจากความเสื่อมสภาพของยางรถยนต์เอง โดยไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ เช่น ยางระเบิดเองขณะขับรถ หรือ ขับไปเหยียบตะปูแล้วยางรั่ว ซึ่งกรณีนี้ถ้าส่วนอื่นตัวรถเสียหายด้วย บริษัทประกันจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถเท่านั้น แต่ยางรถจะเคลมประกันไม่ได้ค่ะ เมื่อรู้แล้วว่ายางรถระเบิดในกรณีไหนถึงจะสามารถเคลมประกันได้ เราก็ควรป้องกันก่อนเกิดเหตุด้วยการเช็คสภาพล้อรถก่อนออกเดินทาง นอกจากนั้นควรหมั่นตรวจเช็คสภาพยางรถเป็นประจำ เพื่อช่วยยืดอายุยางรถยนต์ไปในตัว
ล้อแม็กซ์ เคลมได้ไหม ?
อีกคำถามจากผู้ขับขี่ แล้วล้อแม็กซ์ เคลมได้ไหม ?
ในเรื่องของล้อแม็กซ์นั้น ทางบริษัทประกันภัยรับผิดชอบเต็มราคาของล้อแม็กซ์ แต่เงื่อนไขก็คือ ล้อแม็กซ์นั้นจะต้องเป็นล้อเดิม ๆ ที่ติดมากับตัวของรถยนต์เราตั้งแต่แรกเท่านั้น ถ้าเราเอารถยนต์ของเราไปเปลี่ยนล้อแม็กโดยที่ไม่แจ้งทางบริษัทประกันภัย ทางประกันก็จะไม่รับผิดชอบนะคะ เพราะฉะนั้นถ้าเรานำรถยนต์ของเราไปปรับเปลี่ยนอะไรก็แจ้งทางบริษัทประกันภัย เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจนด้วยนะคะ
ถ้าล้อรถยนต์ของเราโดนขโมยไป คุ้มครองมั๊ย ?
– ล้อแม็กซ์ : รับผิดชอบตามราคาเต็ม แต่ต้องเป็นล้อที่ติดมากับรถยนต์ตั้งแต่ซื้อมาเท่านั้น
– ยางรถยนต์ : รับผิดชอบ 50% ของราคายางรถยนต์
วิธีการดูแลยางรถยนต์เพื่อยืดอายุการใช้งานมีอะไรบ้าง ?
วิธีการดูแลยางรถยนต์ มีดังนี้
- เติมลมยางให้เหมาะกับรถที่ใช้อยู่
ควรเติมลมยางรถยนต์ให้เหมาะสมสำหรับรถแต่ละชนิด ให้ครบทั้งสี่ล้อโดยที่แรงดัน และ ลมยางมีปริมาณที่เท่ากัน เพราะหากเติมปริมาณลมยางไม่เท่ากัน จะทำให้การสึกหรอของยางไม่เท่ากันทั้งหมด และ ถ้าลมยางอ่อนไป หรือ แข็งไป ก็จะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้นเพราะยางมีความฝืดสูงกว่าปกติ
- ตรวจเช็คลมยาง
หมั่นตรวจเช็คลมยางสม่ำเสมอด้วยเกจ์วัดลมที่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะก่อนออกเดินทางไกลทุกครั้ง เพราะการเช็ค และ เติมลมยางให้เหมาะสมก็จะช่วยยืดอายุยางรถ และ ทำให้เราปลอดภัยจากอุบัติอีกด้วย นอกจากนั้น ควรเติมลมยางขณะที่ยางรถยนต์ยังเย็นอยู่ เพราะหากตรวจตอนใช้รถไปแล้ว หรือ ตรวจขณะยางรถยังมีความร้อน จะทำให้ค่าความดันภายในยางสูงขึ้น และ ไม่ได้ค่าที่ใช้วัดตามมาตรฐาน
- ใช้ยางรถยนต์ให้ถูกประเภท
เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยางเส้นใหม่ ควรเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมกับประเภทการใช้งาน และ ควรเลือกใช้ยางที่มียี่ห้อ และ รุ่นเดียวกันทั้งชุด นอกจากนั้นยังต้องคำนึงถึงจุดประสงค์ในการวิ่งด้วย เช่น วิ่งในเมือง , ต่างจังหวัด ก็เลือกยางที่เหมาะกับสภาพที่ต้องใช้วิ่งประจำ ก็จะช่วยยืดอายุของยางมากขึ้น แถมยังปลอดภัยต่อชีวิต และ ทรัพย์สินของเราอีกด้วย
- ตรวจสภาพของดอกยางสม่ำเสมอ
ควรสังเกต การสึกหรอที่ผิดปกติตลอดหน้ายางอยู่เสมอ เช่น หากหน้ายางสึกเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งแสดงว่าศูนย์ล้อผิดปกติ แต่หากยางสึกไม่เรียบเสมอกันตลอดหน้ายางอาจเกิดจากระบบช่วงล่าง เมื่อเห็นถึงความผิดปกติดังกล่าวแล้วต้องรีบเปลี่ยนอย่างโดยด่วน เพราะจะมีผลต่อการทรงตัวของรถซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
รู้วิธีตรวจเช็คสภาพของยางรถยนต์เบื้องต้นด้วยตัวเองแล้ว หากพบยางรถเริ่มเสื่อมสภาพควรรีบเปลี่ยน ใหม่ทันที เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตของคุณ และ ผู้ร่วมใช้ถนน แถมยังไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องเคลมประกันเมื่อยางระเบิดอีกด้วย
รถยนต์ยางแตกแจ้งเคลมประกันได้ไหม การขับขี่อยู่บนท้องถนน ใช่ว่าเราจะวิ่งให้ครบระยะ หรือ จนกว่าสภาพดอกยางจะหมดแล้วค่อยเปลี่ยนได้ ทั้งสภาพถนน ทั้งสิ่งที่อยู่บนถนน ก็เป็นปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ให้เราเองต้องเจอปัญหาก่อนเปลี่ยนนี้ได้ สำหรับรถที่ทำประกันภัยชั้น 1 ไว้ จะได้รับความคุ้มครอง จากบริษัทประกันภัยตามปกติ แต่ทางประกันภัยจะหักค่าเสื่อมสภาพของยางเราด้วยเช่นกัน เพราะยางถือเป็นส่วนสำคัญที่ใช้ในการขับเคลื่อนตลอดเวลา ถ้าหากจะเคลม จะต้องออกคนละครึ่ง 50% กับบริษัทประกันภัยนั่นเอง แต่บางบริษัทประกันภัย ก็มีเงื่อนไขพิเศษ คุ้มครองยางให้ 100% ส่วนรถที่ทำเป็นประกันชั้น 2+ 3+ เอาไว้ หากรถมียางล้อแตก และ ความเสียหายเกิดขึ้นแต่เพียงยางจะไม่ได้รับความคุ้มครอง คุณสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pakanpaide.com