สีรถลอกไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุเคลมประกันได้ไหม สาระดี ๆ ผู้ทำประกันควรทราบ
เจ้าของรถส่วนใหญ่ก็มักจะดูแลรถกันเป็นประจำอยู่แล้ว คงไม่มีใครอยากให้รถของเรามีรอยสีถลอกจากการชน หรือ จากการเสื่อมสภาพลงได้ เลยเกิดเป็นข้อสงสัยของหลาย ๆ ท่านว่า หาก สีรถลอกไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุเคลมประกันได้ไหม หากอยู่ ๆ สีรถลอก ประกันจะคุ้มครองหรือไม่ เนื่องจากไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ ถ้าเราจะทำประกันชั้น 1 ไว้ กรณีนี้คุ้มครองไหม เพราะอาการสีลอกอาจเกิดจากการใช้งาน อายุของสีรถ หรือ การทำสีที่ไม่ได้คุณภาพ วันนี้เรามีคำตอบให้ผู้ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้ทราบกันค่ะ เพื่อให้ท่านจะได้ไม่มีปัญหาในการเคลมประกัน มาดูคำตอบ และ ความคุ้มครองของประกันชั้น 1 กันค่ะ ว่าคุ้มครองอะไรบ้าง ?
สีรถลอกไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุเคลมประกันได้ไหม เรามีคำตอบ
สีถลอก เคลมประกัน ได้ไหมถ้าไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุ คำตอบ ไม่ได้ค่ะ หลาย ๆ ท่านคงคิดว่าหากทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 นั้นจะสามารถได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมในทุก ๆ เรื่อง แต่จริง ๆ แล้วประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ไม่ได้ครอบคลุมเสมอไป เนื่องจากประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองอยู่ 3 ประเภท ได้แก่
คุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกัน
ตั้งแต่การถูกชน สูญหาย ไฟไหม้ หรือ แม้กระทั่งน้ำท่วม
มครองบุคคลภายนอก หรือ คู่กรณี
หากเกิดอุบัติเหตุประกันจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนในส่วนนี้ให้รวมถึงกรณีที่มีความเสียหายต่อทรัพย์สินของคู่กรณีอีกด้วย
คุ้มครองตัวบุคคลในรถที่เอาประกัน
ความคุ้มครองหากเกิดอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาล จำนวนคนที่คุ้มครอง และ การประกันตัวผู้ขับขี่ในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิด และ ต้องเข้าโรงพัก บริษัทประกันจะสามารถประกันตัวคุณออกมาได้ ตามจำนวนเงินที่กรมธรรม์ระบุก่อนจะดำเนินคดี หรือ ขึ้นศาลกันต่อไป
ทั้งนี้การเคลมสีจะสามารถทำได้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเท่านั้น ไม่สามารถคุ้มครองในส่วนของการที่รถยนต์เสื่อมสภาพจากการใช้งานต่าง ๆ เพราะอาการสีลอกอาจเกิดจากการใช้งานรถยนต์ของผู้ขับขี่ อายุของสีรถ หรือ การทำสีที่ไม่ได้คุณภาพ แต่หากว่าขับรถไปชนกับสิ่งของทำให้สีรถของคุณลอก หรือ เกิดรอยถลอก โดยสามารถบอกที่มาของรอยแผลนั้น ๆ ได้ทางบริษัทประกันภัยอาจรับไว้พิจารณานั้นเอง
ข้อเสียของการทำสีรถยนต์ที่คุณต้องรู้
การซ่อมสีรถเป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายคนนิยมใช้ในการแปลงโฉมรถเก่าให้กลับมาดูใหม่ หลายครั้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน รถเป็นรอยถลอกเล็ก ๆ เจ้าของรถก็มักขอเคลมเพื่อซ่อมสีเพราะอยากให้รถกลับมาดูดีเหมือนเดิม แต่คุณรู้หรือไม่ การ เคลมประกัน ทําสีรถ บ่อย ๆ อาจไม่ได้ทำให้รถคุณดูสวยเหมือนใหม่เสมอไป เป็นเพราะอะไรไปดูกัน เรารวมข้อเสียของการทำสีรถบ่อยมาให้แล้วที่นี่
-
สีที่ได้มาไม่เหมือนเดิม
-
สีไม่เรียบ เป็นคลื่น
-
สีถลอกหลุดลอกง่าย
-
เมื่อขายต่อราคาตก
การทำสีรถยนต์ให้สวยต้องอาศัยความชำนาญของช่าง และ เครื่องมือที่ทันสมัยเป็นอย่างมาก สีรถที่ได้มาถึงจะดูดีเหมือนออกมาจากโรงงานใหม่ ๆ ทั้งนี้หากรอยแผลบนรถคุณไม่ใหญ่ จนกวนใจคุณมากนัก เราขอแนะนำให้คุณเก็บสีรถเดิมไว้ หลีกเลี่ยงการทำสีใหม่จะดีที่สุด เพราะนอกจากการทำสีรถบ่อย ๆ จะไม่ใช่เรื่องดีสำหรับรถแล้ว ยังไม่ดีสำหรับเรื่องของประกันรถยนต์อีกด้วย
วิธีลบรอยถลอกรถด้วยตัวเอง ทำอย่างไร ?
วิธีลบรอยถลอกรถ ทำอย่างไร มาดูกัน
-
สำรวจรอยถลอกของสีรถ
สำรวจตรวจสอบร่องรอยความเสียหายของรถที่สีถลอกก่อนว่ามีรอยลึกมาก – น้อยเพียงใด หากรถสีถลอกไม่ลึกถึงเนื้อสีก็สามารถขัดรอยถลอกรถด้วยตนเองได้เลย -
ทำความสะอาดบริเวณที่มีรอยถลอก
ก่อนที่จะดำเนินการแก้ไขรอยถลอกเจ้าของรถจำเป็นจะต้องทำความสะอาดรถยนต์บริเวณที่เกิดรอยก่อนทุกครั้ง เพื่อจะได้กำจัดเศษฝุ่น สิ่งสกปรกต่าง ๆ ในบริเวณดังกล่าว เพราะหากลงมือขัดสีตรงส่วนที่เป็นรอยเลยอาจทำให้รถเกิดรอยมากกว่าเดิมได้นั้นเอง -
ลบรอยด้วยน้ำยาขัดรอยถลอกรถ
น้ำยาขัดรอยถลอก หรือ น้ำยาลบรอยขีดข่วนรถยนต์จะช่วยแก้รอยสีถลอกรถที่ลึกไม่ถึงเนื้อสีได้เป็นอย่างดี โดยการให้นำน้ำยาลบรอยถลอกรถมาเทลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์ จากนั้นให้เริ่มลบรอยบริเวณที่รถสีถลอกโดยขัดวนไปเรื่อย ๆ เหมือนก้นหอยจนกว่าน้ำยาจะเป็นสีเดียวกันกับรถหรือจนกว่ารอยเหล่านั้นจะจางหายไป
นี่ก็เป็นวิธีลบรอยถลอกรถที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ แต่ทางที่ดีที่สุดคือเมื่อรถเกิดรอยสีถลอกไม่ว่าจะมาก หรือ น้อย หากปล่อยเอาไว้นานเกินไป ก็จะมีคราบสกปรกต่าง ๆ ไปเกาะบริเวณที่รถสีถลอกได้ค่ะ
จากบทความข้างต้น ท่านก็จะได้ทราบแล้วว่าประกันจะเคลมสีรถถลอกกรณีเกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้น จะไม่รับเคลมกรณีที่สีถลอกเอง โดยเกิดจากการเสื่อมสภาพของสี หรือ อายุการใช้งาน ดังนั้น เราจึงได้นำเสนอวิธีการลบรอยถลอกของรถยนต์ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ และ ข้อเสียของการทำสีรถบ่อย ๆ ให้ผู้ใช้รถได้ทราบ สีรถลอกไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุเคลมประกันได้ไหม เพื่อให้ท่านจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการเคลมสี และ มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับความคุ้มครองของประกันชั้น 1 ว่าคุ้มครองกรณีใดบ้าง ไม่คุ้มครองกรณีใดบ้าง ดังนั้นถึงแม้เราจะมีประกันชั้น 1 ก็ใช่ว่าจะคุ้มครองทุกเรื่อง เราควรให้ความใส่ใจดูแลรถของเราเอง ในการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสีรส หรือ การเก็บรักษารถ จอดในที่ร่ม ฯลฯ เพื่อช่วยยืดอายุสีรถของท่านไม่ให้ถลอกเร็วนั่นเอง