รถเป็นสนิม เคลมได้ไหม ต้องทำอย่างไร มีวิธีการป้องกันยังไงบ้าง

รถเป็นสนิม เคลมได้ไหม

รถเป็นสนิม เคลมได้ไหม แล้วต้องทำอย่างไร เมื่อพูดถึงประกันรถยนต์ ก็ต้องพูดถึงการเคลมเป็นธรรมดา วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันว่า รถยนต์นั้น เมื่อเราใช้งานมาเป็นระยะเวลานานหลายปีแล้ว ก็มักที่จะมีการสึกหรอเป็นเรื่องธรรมดา บางคันก็อาจจะเสื่อมสภาพลงได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ของคนขับรถแต่ละบุคคลด้วย โดยเฉพาะรถรุ่นเก่า ๆ นั้น จะมีโครงสร้างส่วนใหญ่เป็นเหล็กทเมื่อมีการเฉี่ยว การชน หรือ มีรอยขีดข่วนขึ้นมา ตัวรถยนต์นั้นก็ อาจเกิดการถลอกได้ หากมีการปล่อยทิ้งไว้ก็จะมีโอกาสที่จะเกิดสนิมที่ตัวรถได้อีกด้วย และ หลายคนอาจสงสัยว่า รถเป็นสนิมจะเคลมยังไง สามารถแจ้งเคลมประกันได้หรือไม่ คำตอบก็คือ การเกิดสนิมที่พบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่สีถลอก หรือ ส่วนที่ถูกกระแทก จนทำให้สีหลุดร่อนนั้น หากทิ้งไว้นานก็จะกลายเป็นสนิม ไม่สามารถเคลมประกันได้ เพราะไม่เข้าเงื่อนไขรับประกันนั่นเอง แต่จะเป็นข้อยกเว้น หากเกิดจากความเสื่อม และ สึกหรอของรถยนต์ ที่เป็นไปตามอายุการใช้งาน คุณสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.pakanpaide.com

สนิมเกิดจากอะไรบ้าง แล้วมีกี่ประเภท

เรามาทำความรู้จักกับสนิมกันก่อน เพื่อจะได้หาทางป้องกันได้ยาวนานมากขึ้น สนิม หรือ rust เป็นโลหะของส่วนที่มีการเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม เนื่องจากได้รับปฏิกิริยาทางเคมีที่มีอากาศ น้ำ หรือ ความร้อน เข้าไปเป็นตัวการสำคัญ ทำให้โลหะมีคุณสมบัติแตกต่างออกไปจากเดิม อาทิเช่น สีที่เปลี่ยนไป ความแข็งแรงที่ลดลง และ ทำให้เกิดการผุกร่อนได้นั่นเอง ตัวอย่างที่สามารถพบเห็นได้อยู่บ่อย ๆ ได้แก่ เหล็ก โดยสนิมมีประเภทต่าง ๆ ดังนี้

  • สนิมทั่วไป คือ Flash rust ที่เกิดบนผิวเหล็กเปลือย และ Brush rust ที่เกิดบนผิวเหล็กที่มีการทาส
  • สนิม Galvanic เมื่อโลหะสองชนิดสัมผัสกัน โลหะที่ไวต่อการเกิดสนิมมากกว่า ซึ่งจะมีประจุเป็นลบ (anode) จะขึ้นสนิมได้ก่อนโลหะที่มีประจุเป็นบวก (cathode)
  • สนิมหลุม เกิดจากสนิมที่มีปริมาณมาก ๆ รวมอยู่ในพื้นที่แคบ
  • สนิมตามรอยแยก เกิดสนิมขึ้นในช่องแคบระหว่าง ชิ้นส่วนเล็ก ๆ อาทิเช่น ระหว่างเกลียวกับหัวหมุด เป็นต้น

รถเป็นสนิม เคลมได้ไหม ต้องทำยังไงบ้าง

เมื่อเรารู้แล้วว่าสนิทคืออะไร เกิดได้อย่างไร ต่อมาก็มาถึงขั้นตอนอะไรบ้าง ที่เราสามารถจัดการกับสนิม หรือ รถขึ้นสนิม เคลมประกันยังไงบ้าง

  1. ให้ใช้ผ้าชุบน้ำ ทำความสะอาด เช็ดสิ่งสกปรกจากตัวรถยนต์ออกก่อน
  2. ต่อมาใช้กระดาษทรายขัด โดยใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดตั้งแต่ 800 ขึ้นไป ถึงจะได้ผลดี
  3. หลังจากนั้น ให้ใช้ผ้าสะอาดเช็ดคราบสนิมที่เหลือออก โดยอาจจะใช้สเปรย์หล่อลื่น หรือ น้ำมันหล่อลื่น ไม่ควรใช้น้ำล้างโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดสนิมขึ้นได้อีกครั้ง
  4. สุดท้ายแล้วให้ใช้จาระบี ทาลงตรงจุดที่ขัด ทางที่ดีหากไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ก็แนะนำให้นำไปเข้าอู่ ให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนจัดการให้จะเป็นการดีที่สุด

ดังนั้น ท่านใดที่มีรถก็ควรหมั่นตรวจเช็กตามจุดต่าง ๆ ที่เสี่ยงต่อการเกิดสนิมให้ดี หากพบแล้วก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานเด็ดขาด ควรรีบนำเข้าอู่ซ่อมทันที เพื่อเป็นการป้องกันรถเป็นสนิม แล้วมันจะลามไปยังจุดต่าง ๆ ของรถได้ด้วย

วิธีการป้องกันปัญหาที่เกิดจากการใช้รถน้อยครั้ง

บทความนี้จะมาแชร์การแก้ไขปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาขึ้นมาได้ นั่นก็คือ การที่ใช้งานรถยนต์น้อยครั้ง หรือ ไม่ค่อยมีการขับรถ เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หรือ ปัญหาที่ว่า รถเป็นสนิม จะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง มีวิธีการดังนี้

  • เมื่อไม่ค่อยได้ใช้รถ ควรสตาร์ตอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือ ขับออกไปรอบหมู่บ้าน เพื่อให้น้ำมันที่ค้างอยู่ เกิดการหมุนเวียน และ เผาไหม้ไป น้ำมันใหม่จะได้เข้ามาแทนที่ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของน้ำมัน
  • เช็กอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ดี ซึ่งแบตเตอรี่รถยนต์ส่วนใหญ่ จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 1.5 – 2 ปี เท่านั้น ขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากรถที่จอดทิ้งไว้หลาย ๆ วัน แบตเตอรี่จะยิ่งมีอายุสั้นกว่ารถที่ใช้งานเป็นปกติ ดังนั้นจึงควรสังเกตอาการของรถที่บอกเหตุแบตเตอรี่กำลังใกล้หมด
  • หาสิ่งที่หนูเกลียดมาไว้ใช้ อาทิเช่น ลูกเหม็น ยาไล่หนูต่าง ๆ เอามาวางไว้ ในยามที่เราไม่ได้ใช้รถนาน ๆ เพื่อป้องกันหนูที่จะหอบลูกหลานมาทำรังในรถเราได้
  • ถ้าเป็นไปได้ควรหมั่นล้างรถอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อไม่ให้คราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ นั้นติดฝังอยู่นาน ควรหลีกเลี่ยงที่จะจอดรถกลางแจ้ง แต่ถ้าหากเลี่ยงไม่ได้เลย ก็ควรหาผ้ามาคลุมรถเอาไว้ เพราะนอกจากจะป้องกันรถจากฝุ่นได้แล้ว ยังป้องกันมูลนก รวมถึงรอยขีดขวดจากแมวได้อีกด้วย

รถเป็นสนิม เคลมได้ไหม ต้องทำอะไรบ้าง คำตอบก็คือ รถเป็นสนิมนั้นจะไม่สามารถเคลมประกันได้นั่นเอง เพราะไม่เข้าเงื่อนไขรับประกัน แต่เป็นข้อยกเว้น หากเกิดจากความเสื่อม และ สึกหรอของรถตามอายุการใช้งาน ฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้รถเป็นสนิม ก็ควรหมั่นตรวจสอบให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา ไม่ว่าจะเป็นอายุของแบตเตอรี่ที่สั้นลง การที่หนูเข้ามาทำรังในรถ หรือ การสตาร์ตรถเดือนละครั้งก็จะช่วยให้รถมีอายุการใช้งานที่ดี และ ควรหลีกเลี่ยงการทำให้รถเป็นสนิม หรือ เกิดความชื้นต่าง ๆ เพื่อรักษาให้รถสามารถใช้งานได้อย่างยาว คุณสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.pakanpaide.com